อาการมดลูกอักเสบ มักพบบ่อยหลังจากคุณแม่คลอดลูกแล้ว อาการที่คุณแม่จะรู้ได้ว่า มดลูกอักเสบ คือ มีอาการปวดท้อง และมีไข้ขึ้นสูง เมื่อคุณแม่หลังคลอดพบว่ามีอาการดังกล่าว ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพราะอาการที่กล่าวมา เป็นอาการข้างเคียงที่อันตรายสำหรับคุณแม่หลังคลอด เพราะคุณแม่อาจเกิดการติดเชื้อหลังคลอดได้นั่นเองค่ะ
อาการร้อนวูบวาบเกิดจากเซลล์เยื่อบุหลอดเลือดทำงานผิดปกติ ทำให้หลอดเลือดขยาย และอาจเกี่ยวข้องกับการเกิดความผิดปกติของหัวใจด้วย ซึ่งมักพบในผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ที่ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายลดต่ำลง
สาวๆที่กำลังหาวิธีรักษาแก้อาการตกขาว คันจากเชื้อราไม่ว่าจะเป็นการกินยา สอดยา รวมถึงการใช้สมุนไพรไทย เพื่อช่วยบรรเทากลิ่น อาการคัน และแก้ไขตกขาวที่เกิดเชื้อราในช่องคลอดให้กลับมาเป็นปกติ เราได้รวบรวมมาฝากกัน ดังต่อไปนี้
1.ว่านชักมดลูก
น่าจะเป็นรู้จักกันในชื่อนี้ นับเป็นสมุนไรที่มีประโยชน์มากมายสำหรับสาวๆ และเป็นที่นิยมแพร่หลายในปัจจุบัน เนื่องจากในว่านชักมดลูกมีฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนเพศหญิงสำหรับวิธีการอาจเลือกรับประทานว่านชักมดลูกแบบสำเร็จรูป หรือนำว่านชัดมดลูกตัวผู้มาหั่นเป็นแว่น นำไปตากแดดแล้วจึงนำมาต้มกินเป็นประจำหรือจะเป็นว่านชักมดลูกสำเร็จรูปขาย ไม่ว่าจะเป็นแบบผงชง แบบแคปซูลหรืออัดเม็ด สามารถเลือกรับประทานได้ตามสะดวก สรรพคุณว่านชักมดลูก ช่วยลดกลิ่น ปรับสมดุลกี่ยวกับระบบภายในของผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานของมดลูก รังไข่ ทั้งยังช่วยรักษาอาการอักเสบและความผิดปกติในช่องคลอด ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็วหลังคลอดบุตร ทำให้ภายในฟิตกระชับ ทำให้ระบบสืบพันธ์ของเพศหญิงทำงานดีขึ้น
“ตังกุย” ถูกพบในประเทศจีน บริเวณที่อยู่ระหว่างเขตร้อนและเขตหนาว เหมาะกับสภาพอากาศชื้น เป็นไม้ล้มลุกที่มีอายุยืนยาว รากของตังกุยคือส่วนที่จะนำเอาไปใช้เป็นยา ดังนั้นหากจะได้รากตังกุยที่ดี ก็จำเป็นต้องปลูกในสภาพอากาศที่มีความชื้นเหมาะสม มีดินที่อุ้มน้ำ และได้รับแสงรำไร มักจะพบตังกุยได้จากป่าดิบเขา และแหล่งเพาะปลูกตามภูเขาสูง ปัจจุบันตังกุยเป็นพืชเศรษฐกิจของจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และเวียดนาม
วัยเด็ก ผิวหนังมักไม่ค่อยมีปัญหา นอกจากมีการผิดปกติของผิวหนังที่ได้รับถ่ายทอดทางพันธุกรรมอยู่แล้ว จนเข้าสู่วัยเรียน เมื่อเข้าโรงเรียนจะมีโอกาสเกิดผิวหนังอักเสบติดเชื้อต่างๆได้ง่าย เช่น หัด หัดเยอรมัน , สุกใส , หูด , หูดข้าวสุก , แผลพุพอง จนไปถึงหิดและเหาซึ่งจะติดต่อกันง่ายในโรงเรียน
ปัจจุบันผู้หญิงป่วยด้วยโรคมดลูกโตกันค่อนข้างมาก มักพบในผู้หญิงที่อายุระหว่าง 30-45 ปี โรคมดลูกโตพบได้หลายสาเหตุ ได้แก่ เนื้องอกในมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ แต่สาเหตุหลักๆ ที่พบคือ โรคมดลูกโตจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Adenomyosis) คือ การที่เนื้อเยื่อในโพรงมดลูกเจริญหรือแทรกซึมเข้าไปในกล้ามเนื้อมดลูก ทำให้กล้ามเนื้อมดลูกเกิดภาวะอักเสบเรื้อรังจนเกิดพังผืดในชั้นกล้ามเนื้อมดลูก